วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

อนุทินที่ 8 การอบรมเรื่อง SWOT

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรมเรื่อง SWOT

                จากการที่ดิฉันได้เข้าร่วมฟังการอบรมเรื่อง SWOT ในวันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมานั้นทำให้ดิฉันเกิดการเรียนรู้ในหลากหลายเรื่องราวด้วยกัน ซึ่งวิทยากรนั้นเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์มากมายซึ่งเราทราบกันดีว่าในเรื่องของ SWOT นั้นเป็นเรื่องที่ยากและยิ่งไปกว่านั้นพวกเรานั้นไม่ค่อยมีความรู้พื้นฐานทางเรื่องนี้เลย ซึ่งท่านวิทยากรก่อนที่จะเข้าเรื่องดังกล่าว ท่านก็มีการเริ่มต้นเรื่องราวๆต่างเพื่อปูพื้นฐานและนำไปสู่เรื่องราวที่เกี่ยวกับ SWOT ซึ่งสิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนั้นประกอบไปด้วยเรื่องของ เรื่องการวางแผนเชิงกลยุทธ์ แนวคิดของ SWOT Analysis  และ SWOT ในสถานศึกษา


                        สำหรับเรื่องการวางแผนเชิงกลยุทธ์นั้นโดยเริ่มต้นได้เรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของการเปลี่ยนแปลงว่าสังคมในปัจจุบันนี้จะเข้าสู่ยุค Knowledge Society, Learning Society และเทคโนโลยีจะมีบทบาทต่อชีวิตประจำวันมากขึ้นอาทิ เช่น ICT, Bio Tech. สำหรับเรื่องของเศรษฐกิจนั้นข้าสู่ยุค Digital Economy ซึ่งจะเกี่ยวกับการวางแผนกลยุทธ์องค์การจะมองในระยะยาว ส่วนการจัดโครงสร้างองค์การจะเป็นแนวราบและเป็นเครือข่าย  (Flat Organization & Networking) และนำไปสู่การกระจายอำนาจตัดสินใจสู่ผู้ปฏิบัติมากขึ้น (Empowerment) ประชาคมจะเข้ามามีส่วนร่วมมีบทบาทมากขึ้น (Participation) การใช้ความรู้เชิงสหวิทยาการมีความจำเป็นมากขึ้นและสุดท้ายคือการแก้ปัญหาจะต้องมองภาพที่เป็นลักษณะองค์รวม และสิ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมนั้นเกี่ยวกับเรื่องการวางแผนเชิงกลยุทธ์นั้นจะเกี่ยวกับเรื่องต่างๆซึ่งอยู่ในรูปแบบของแผนภาพที่แสดงดังต่อไปนี้ คือ เรื่องรูปแบบการบริหารราชการแนวใหม่ และ เรื่องการวางระบบบริหารจัดการสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ท่านวิทยากรจะนำเชื่อมโยงไปสู่เรื่องของ SWOT
เรื่องต่อไปที่ท่านวิทยากรนำมาถ่ายทอดแก่พวกเราคือเรื่องของ SWOT โดยเริ่มต้นจาก SWOT Analysis ว่าเป็นการวิเคราะห์สภาพองค์การ หรือหน่วยงานในปัจจุบัน เพื่อค้นหาจุดแข็ง จุดเด่น จุดด้อย หรือสิ่งที่อาจเป็นปัญหาสำคัญในการดำเนินงานสู่สภาพที่ต้องการในอนาคต  SWOT  เป็นตัวย่อของข้อความที่มีความหมายดังนี้
Strengths หมายถึง จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบ Weaknesses หมายถึง จุดอ่อนหรือข้อเสียเปรียบ Opportunities หมายถึง โอกาสที่จะดำเนินการได้ และคำสุดท้าย Threats หมายถึง อุปสรรค ข้อจำกัด หรือปัจจัยที่คุกคามการดำเนินงานขององค์การ และได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ หลักการสำคัญของ SWOT ประโยชน์ของการวิเคราะห์ SWOT การวิเคราะห์ SWOT ขั้นตอนวิธีการดำเนินการทำ SWOT Analysis และการศึกษาสถานภาพสถานศึกษา
หลักการสำคัญของ SWOT 
                หลักการสำคัญของ SWOT  ก็คือการวิเคราะห์โดยการสำรวจสภาพแวดล้อม 2 ด้าน ได้แก่สภาพแวดล้อมภายในและสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งเป็นการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน เพื่อให้รู้ตนเอง (รู้เรา) รู้จักสภาพแวดล้อม (รู้เขา) ชัดเจน และวิเคราะห์โอกาส-อุปสรรค  การวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในองค์กร ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารขององค์กรทราบถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายนอกองค์กร ทั้งสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้วและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต รวมทั้งผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ที่จะมีผลต่อองค์กร และจุดแข็ง จุดอ่อน และความสามารถด้านต่าง ๆ ที่องค์กรมีอยู่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการกำหนดวิสัยทัศน์ การกำหนดกลยุทธ์และกิจกรรมดำเนินการขององค์กรที่เหมาะสมต่อไป




ประโยชน์ของการวิเคราะห์ SWOT
                การวิเคราะห์ SWOT เป็นการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในองค์กร ซึ่งปัจจัยเหล่านี้แต่ละอย่างจะช่วยให้เข้าใจได้ว่ามีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานขององค์กรอย่างไร จุดแข็งขององค์กรจะเป็นความสามารถภายในที่ถูกใช้ประโยชน์เพื่อการบรรลุเป้าหมาย ในขณะที่จุดอ่อนขององค์กรจะเป็นคุณลักษณะภายในที่อาจจะทำลายผลการดำเนินงาน โอกาสทางสภาพแวดล้อมจะเป็นสถานการณ์ที่ให้โอกาสเพื่อการบรรลุเป้าหมายองค์กรในทางกลับกันอุปสรรคทางสภาพแวดล้อมจะเป็นสถานการณ์ที่ขัดขวางการบรรลุเป้าหมายขององค์กร  ผลจากการวิเคราะห์  SWOT  นี้จะใช้เป็นแนวทางในการกำหนดวิสัยทัศน์ การกำหนดกลยุทธ์ เพื่อให้องค์กรเกิดการพัฒนาไปในทางที่เหมาะสม

ขั้นตอนวิธีการดำเนินการทำ SWOT Analysis
                การวิเคราะห์ SWOTจะครอบคลุมขอบเขตของปัจจัยที่กว้าง ด้วยการระบุจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรคขององค์กร ทำให้มีข้อมูล  ในการกำหนดทิศทางหรือเป้าหมายที่จะถูกสร้างขึ้นมาบนจุดแข็งขององค์กร และแสวงหาประโยชน์จากโอกาสทางสภาพแวดล้อม และสามารถ กำหนดกลยุทธ์ที่มุ่งเอาชนะอุปสรรคทางสภาพแวดล้อมหรือลดจุดอ่อนขององค์กรให้มีน้อยที่สุดได้ ภายใต้การวิเคราะห์ SWOT นั้น จะต้องวิเคราะห์ทั้งสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก องค์กร โดยมีขั้นตอนดังนี้
(1) การประเมินสภาพแวดล้อมภายในองค์กร จะเกี่ยวกับการวิเคราะห์และพิจารณาทรัพยากรและความสามารถภายในองค์กร ทุกๆ ด้าน เพื่อที่จะระบุจุดแข็งและจุดอ่อนขององค์กรแหล่งที่มาเบื้องต้นของข้อมูลเพื่อการประเมินสภาพแวดล้อมภายใน คือ ระบบข้อมูลเพื่อการบริหารที่ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งในด้านโครงสร้าง ระบบ ระเบียบ วิธีปฏิบัติงาน บรรยากาศในการทำงาน และทรัพยากร (คน เงิน วัสดุ การจัดการ) ค่านิยมองค์กร รวมถึงการพิจารณาผลการดำเนินงานที่ผ่านมาขององค์กร เพื่อที่จะเข้าใจสถานการณ์และผลของวิธีการดำเนินการก่อนหน้านี้ด้วย
§  จุดแข็งขององค์กร (S-Strengths) เป็นการวิเคราะห์ปัจจัยภายในจากมุมมองของผู้ที่อยู่ภายในองค์กรนั้นเองว่าปัจจัยใดภายในองค์กรที่เป็นข้อได้เปรียบหรือจุดเด่นขององค์กรที่องค์กรควรนำมาใช้ในการพัฒนาองค์กรได้ และควรดำรงไว้เพื่อการเสริมสร้างความเข็มแข็งขององค์กร 
§  จุดอ่อนขององค์กร (W-Weaknesses) เป็นการวิเคราะห์ ปัจจัยภายในจากมุมมองของผู้ที่อยู่ภายในจากมุมมอง ของผู้ที่อยู่ภายในองค์กรนั้น ๆ เองว่าปัจจัยภายในองค์กรที่เป็นจุดด้อย ข้อเสียเปรียบขององค์กรที่ควรปรับปรุงให้ดีขึ้นหรือขจัดให้หมดไป อันจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กร
(2) การประเมินสภาพแวดล้อมภายนอก โดยพิจารณาโอกาสและอุปสรรคทางการดำเนินงานขององค์กรที่จะได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้แก่
§  สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจทั้งในและระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับการดำเนินงานขององค์กร เช่น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ นโยบาย การเงิน การงบประมาณ
§  สภาพแวดล้อมทางสังคม เช่น โครงสร้างประชากร ระดับการศึกษา อัตรารู้หนังสือ การตั้งถิ่นฐาน การอพยพและการย้ายถิ่น ลักษณะชุมชน ขนบธรรมเนียมประเพณี ค่านิยม ความเชื่อและวัฒนธรรม
§  สภาพแวดล้อมทางการเมือง เช่น พระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา มติคณะรัฐมนตรี
§  สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยี หมายถึง กรรมวิธีใหม่ๆและพัฒนาการทางด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและให้บริการ
§  สถานะสุขภาพ อัตราการป่วย/ตายด้วยโรคและภัยสุขภาพของประชากร พฤติกรรมทางสุขภาพ รวมถึงระบบสุขภาพ 
§  สภาพแวดล้อมทางสิ่งแวดล้อม เช่น การเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิอากาศ ระบบนิเวศ ผลกระทบจากการเกษตร อุตสาหกรรม เป็นต้น 

การศึกษาสถานภาพสถานศึกษา
                การศึกษาสถานภาพเป็นการ ศึกษาวิเคราะห์ ถึง ปัจจัย ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งนั้นๆเพื่อเป็นเครื่องมือในการประเมินสภาพว่าเป็นอย่างไรและควรพัฒนาไปในทิศทางใด หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเป็นการสำรวจหาขีดความสามารถเพื่อใช้ในการวางแผน  สำหรับขั้นตอนการศึกษาสถานภาพ มีดังนี้
                1.วิเคราะห์ภารกิจและผลผลิตหลัก
                2. วิเคราะห์สภาพแวดล้อม(ภายใน,ภายนอก)
                3. ประเมินสถานภาพสถานศึกษา
                4. ทิศทางของสถานศึกษา
                5. กำหนดกลยุทธ์
               
                จากการอบรมในเรื่องดังกล่าวดิฉันคิดได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างมากกับการไปประกอบอาชีพครูในอนาคตหรือจะไปฝึกประสบการณ์ฝึกสอนในสถานศึกษาที่ใกล้เข้ามานี้ เพราะหากทางโรงเรียนต้องการให้เราเข้าไปช่วยพวกเราก็มีความรู้สามารถที่จะเข้าไปช่วยได้ในบางส่วน และต้องขอขอบพระคุณท่านวิทยากรที่นอกจากจะนำเนื้อหาดังกล่าวมาถ่ายทอดแล้วท่านยังมีการประยุกต์นำเอาเหตุการณ์ข่าวสารบ้านเมืองในปัจจุบันมาให้พวกเราเกิดความคิด คิดได้ และคิดเป็นอีกด้วย และสุดท้ายต้องขอขอบพระคุณ ดร.อภิชาติ วัชรพันธุ์ ที่จัดอบรมเรื่องSWOTขึ้นมาที่สามารถทำให้พวกเรานำไปพัฒนาและปรับใช้ในอนาคตได้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น